ทนายความจังหวัดสุราษฎร์ธานี

ทนายความจังหวัดสุราษฎร์ธานี

เปิดหน้าต่อไป

กฎหมายที่คุณควรรู้ไว้

รู้หมดกฎหมาย

  • การถูกทวงหนี้ สิ่งที่ควรรู้หากถูกทวงหนี้
  • ปาหิน มีความผิดฐานพยายามฆ่า
  • ประสพภัยบนท้องถนน พรบ.คุ้มภัยช่วยคุณได้
  • สิทธิของผู้ต้องหรือหรือจำเลยตามกฎหมาย

 วันพฤหัส 2 กุมภาพันธ์ 2566

ทนายเตือนภัย เรื่องทวงหนี้ เจ้าหนี้ควรรู้

www.สู้คดี.com

คอลเซ็นเตอร์ทนายความ 099 464 4445

แชทกับทนาย: https://bit.ly/helpmelawyer


เมื่อลูกหนี้ผิดนัดชำระหนี้ เจ้าหนี้ฟ้องเรียกชำระหนี้พร้อมดอกเบี้ยทางศาลได้ เมื่อมีคำพิพากษาแล้วถึงจะสามารถบังคับใช้หนี้จากทรัพย์สินของลูกหนี้ได้ นอกจากนี้หากมีการทวงหนี้ ผู้ถูกทวงหนี้จะต้องมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับ การกู้ยืมเงินเท่านั้น เช่น ลูกหนี้ ลูกหนี้ร่วม หรือผู้ค้ำประกัน ดังนั้นการไปข่มขู่ คุกคาม ญาติ พี่น้อง เพื่อนฝูง หรือผู้เกี่ยวข้องกับลูกหนี้อาจเป็นความผิดฐาน กรรโชกทรัพย์ แต่หากการทวงหนี้ เป็นการข่มขู่ ด้วยวาจา หยาบคาย ทำร้ายร่างกาย กักขัง หรือทำการรบกวนชีวิตประจำวันต่อลูกหนี้ หรือสมาชิกในครอบครัว รวมถึงเพื่อน ผู้ถูกทวงหนี้ก็มีสิทธิ์แจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มคนเหล่านั้นได้ทันทีและถ้ามีการทำร้ายบาดเจ็บหรือกักขังหน่วงเหนี่ยว ผู้ทวงหนี้ ก็จะต้องถูกรับโทษอาญา ฐานดูหมิ่นทำร้ายร่างกาย หรือทำให้เสื่อมเสียเสรีภาพ แล้วแต่กรณี รวมถึงการทวงหนี้ ด้วยวิธีการก้าวร้าว หรือจงใจประจาน ทำให้เเสียชื่อเสียงด้วยวิธีต่างๆอาจเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทได้ ทั้งนี้เมื่อเป็นหนี้ก็มีหน้าที่ต้องชำระการเป็นหนี้ไม่สร้างผลดีให้กับใคร การอยู่อย่างพอเพียงกิน – ใช้อย่างประหยัดก็จะทำให้ชีวิตเป็นสุข

ขอบคุณข้อมูลจากเพจรู้หมดกฎหมาย 

มีปัญหาปรึกษาทนายใกล้คุณ 099 464 4445


วันศุกร์ 3 กุมภาพันธ์ 2566

ทนายเตือนภัย เรื่อง ปาหิน อย่าคิดเพียงสนุก คุกนะครับ

www.ทนายภูวงษ์.com 

คอลเซ็นเตอร์ทนายความ 099 464 4445 

แชทกับทนายภูวงษ์: https://bit.ly/lawyerpoovong


 ในช่วงที่ผ่านมา หลายท่านอาจเคยได้ยินข่าวรถยนต์ถูกปาหินใส่จนเกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำ บางคันโชคดีเสียหายเพียงทรัพย์สิน แต่บางคันโชคร้ายต้องสูญเสียถึงชีวิต อย่างไรก็ตาม การปาหินใส่รถยนต์ผู้อื่นขณะวิ่งไม่ใช่เพียงการทำให้เสียทรัพย์ แต่ถือเป็นการพยายามฆ่า ซึ่งกรณีปรากกฎในคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1178/2539 ว่า จำเลยร่วมกันใช้ก้อนหินขนาดเท่ากำปั้นขว้างกระจกหน้ารถยนต์บรรทุก และรถยนต์โดยสารที่ผู้เสียหายทั้งสองกำลังขับอยู่คันละ 2 ก้อนโดยไม่มีสาเหตุกันมาก่อน และประสงค์จะให้ผู้เสียหายทั้งสองเสียหลักในการขับรถ และอาจขับรถยนต์พลิกคว่ำลงข้างทางหรือถูกรถยนต์คันอื่นที่ขับตามมาชนจนพลิกคว่ำหรือตกลงข้างทาง ซึ่งเมื่อเกิดเหตุดังกล่าวขึ้นแล้ว ย่อมเล็งเห็นผลได้ว่า ผู้เสียหายทั้งสองหรือผู้โดยสารในรถยนต์โดยสารอาจได้รับบาดเจ็บและถึงแก่ความตายได้ จำเลยจึงมีเจตนาฆ่าผู้เสียหายทั้งสองและผู้อื่น เมื่อไม่ถึงแก่ความตายจึงเป็นความผิดฐาน “พยายามฆ่า”

     ซึ่งเป็นไปตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 ที่บัญญัติว่า ผู้ใดฆ่าผู้อื่น ต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่ 15 ปีถึง 20 ปี และมาตรา 80 ผู้ใดลงมือกระทำความผิดแต่กระทำไปไม่ตลอด หรือกระทำไปตลอดแล้วแต่การกระทำนั้นไม่บรรลุผล ผู้นั้นพยายามกระทำความผิดต้องระวางโทษ 2 ใน 3 สำหรับฐานความผิดนั้นๆ


ขอบคุณข้อมูลจากเพจรู้หมดกฎหมาย 

มีปัญหาปรึกษาทนายใกล้คุณ 099 464 4445

********************************************

วันศุกร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2566

ทนายเตือนภัย เรื่อง ประสพภัยจากรถบนท้องถนน อย่าตกใจ พรบ.คุ้มภัยช่วยได้

www.ทนายภูวงษ์.com 

คอลเซ็นเตอร์ทนายความ 099 464 4445 

แชทกับทนายภูวงษ์: https://bit.ly/lawyerpoovong


     ประชาชนที่ใช้ชีวิตบนท้องถนนอาจไม่รู้สิทธิของตัวเอง ว่าเมื่อถึงคราวเคราะห์ร้ายประสบอุบัติเหตุจากรถต่างๆ ที่เข้ามาชนหรือทำให้ได้รับอันตราย ไม่ว่าความผิดจะเป็น ของฝ่ายใดก็สามารถขอรับเงินช่วยเหลือได้ อาทิ เบิกค่ารักษาพยาบาล หรือในกรณีเสียชีวิตก็จะมีค่าปลงศพ ตามพระราชบัญญัติคุ้มครอง ผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 นี่เป็นเหตุผลที่รัฐบังคับให้รถทุกคันทำประกันชนิดนี้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ชาวบ้าน

ขอบคุณข้อมูลจากเพจรู้หมดกฎหมาย มีปัญหาปรึกษาทนายใกล้คุณ 099 464 4445 อยากปรึกษาหรือหาข้อมูลสู้คดีที่เวปไซต์นี้ www.ทนายภูวงษ์.com

*******************************************

วันเสาร์ 11 กุมภาพันธ์ 2566

ทนายเตือนภัย เรื่อง สิทธิของผู้ต้องหาหรือจำเลย www.สู้คดี.com 

คอลเซ็นเตอร์ทนายความ 099 464 4445 

แชทกับทนายจอย: https://bit.ly/lawyerjoy


บุคคลใดก็ตามถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิด และถูกจับกุมเป็นผู้ต้องหาตามกฎหมายยังถือว่าผู้นั้นบริสุทธิ์อยู่ จนกว่าจะถูกฟ้องเป็นจำเลยและศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดว่ามีความผิด ดังนั้นสิทธิของผู้ต้องหาเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ทุกคนควรได้รับอย่างเท่าเทียมกันตามรัฐธรรมนูญ นอกจากนี้ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 7/1 ได้กำหนดสิทธิของผู้ที่ตกเป็นผู้ต้องหาไว้ว่า ผู้ถูกจับหรือผู้ต้องหาซึ่งถูกควบคุมตัวหรือคุมขัง มีสิทธิแจ้งให้ญาติหรือผู้ที่ผู้ต้องหาไว้วางใจทราบถึงการถูกจับกุม หรือสถานที่ถูกควบคุมตัวในโอกาสแรกที่ถูกจับ และมีสิทธิที่จะพบและปรึกษาทนายความเป็นการเฉพาะตัว รวมถึงให้ทนายความเข้าฟังการสอบปากคำในชั้นสอบสวน และได้รับการเยี่ยมหรือติดต่อกับญาติได้ตามสมควร ตลอดจนได้รับการรักษาพยาบาลโดยเร็ว เมื่อเกิดการเจ็บป่วย นอกจากนี้ กฎหมายได้กำหนดให้เจ้าพนักงานปกครอง หรือตำรวจผู้รับมอบตัว หรือผู้จับกุมต้องแจ้งสิทธิของผู้ต้องหาหรือผู้ถูกจับกุมให้ทราบในโอกาสแรกที่ถูกจับกุมด้วย


ขอบคุณข้อมูลจากเพจรู้หมดกฎหมาย มีปัญหาปรึกษาทนายใกล้คุณ 099 464 4445 อยากปรึกษาหรือหาข้อมูลสู้คดีที่เวปไซต์นี้ www.ทนายภูวงษ์.com

***************************************

ลำดับที่ 1 

เรื่อง รถหายในห้างใครรับผิดชอบ

ทนายเตือนภัย: ทรัพย์สินเงินทองเป็นของนอกกาย ไม่ตายก็หายากครับ การมีทรัพย์สินใดๆไว้ ควรรักษาไว้ให้อยู่กับเรานานๆ แต่ถ้าทรัพย์สินของท่านหายไปก็ต้องแจ้งความ และเรียกร้องสิทธิของท่านครับ ถ้ารถยนต์ของท่านหายในห้างสรรพสินค้า ท่านมีสิทธิเรียกร้องให้ห้างสรรพสินค้ารับผิดชอบครับ


จำเลยเป็นห้างสรรพสินค้าขายปลีกและขายส่งสินค้าอุปโภคและบริโภค ย่อมต้องให้ความสำคัญด้านบริการต่าง ๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งบริการเกี่ยวกับสถานที่จอดรถซึ่งนับเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจของลูกค้าที่จะเข้าไปซื้อสินค้าหรือใช้บริการอื่น ๆ หรือไม่ แม้ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 มาตรา 8 (9), 34 บัญญัติให้จำเลยซึ่งเป็นเจ้าของอาคารต้องจัดให้มีพื้นที่จอดรถเพื่ออำนวยความสะดวกแก่การจราจร แต่จำเลยยังต้องคำนึงและมีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของลูกค้าทั้งในชีวิตและทรัพย์สิน มิใช่ปล่อยให้ลูกค้าระมัดระวังหรือเสี่ยงภัยเอาเอง การที่จำเลยเคยจัดให้มีการแจกบัตรสำหรับรถของลูกค้าที่เข้ามาในห้างซึ่งเป็นวิธีการที่ค่อนข้างรัดกุม เพราะหากไม่มีบัตรผ่าน กรณีจะนำรถยนต์ออกไปจะต้องถูกตรวจสอบโดยพนักงานของจำเลย แต่ขณะเกิดเหตุกลับยกเลิกวิธีการดังกล่าวเสียโดยใช้กล้องวรจรปิดแทน เป็นเหตุให้คนร้ายสามารถเข้าออกลานจอดรถห้างฯ ของจำเลยและโจรกรรมรถได้โดยง่ายยิ่งขึ้นแม้จำเลยจะปิดประกาศว่าจะไม่รับผิดชอบต่อการสูญหายหรือเสียหายใด ๆ รวมทั้งการที่ลูกค้าก็ทราบถึงการยกเลิกการแจกบัตรจอดรถ แต่ยังนำรถเข้ามาจอดก็ตาม ก็เป็นเรื่องข้อกำหนดของจำเลยแต่ฝ่ายเดียวไม่มีผลเป็นการยกเว้นความรับผิดในการทำละเมิดของจำเลย


มีปัญหาปรึกษา ทนายใกล้คุณ 

คอลเซ็นเตอร์ (เวลาราชการ) 089-226-8899 

คอลเซ็นเตอร์ 24 ชั่วโมง 02-114-7521 

ไลน์กับทนาย 24 ชั่วโมง @lawyernearyou 

แชทกับทนาย 24 ชั่วโมง https://direct.lc.chat/8941034 

(กรอกข้อมูล มือถือ อีเมล เพื่อให้เราติดต่อกลับด้วย)

*******************************************

ลำดับที่ 3

เรื่อง การเช่าทรัพย์ เงินมัดจำและเงื่อนไขอื่นๆศาลวินิจฉัยไว้อย่างไรบ้าง

เงินประกันการเช่าตามสัญญาเช่าได้กำหนดให้โจทก์ผู้ให้เช่ามีสิทธินำค่าเช่าที่ค้างชำระหรือหนี้สินอื่นที่ค้างชำระมาหักเงินประกันค่าเช่าได้เมื่อจำเลยผู้เช่าขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกจากสถานที่เช่าเรียบร้อยแล้ว และให้โจทก์มีสิทธิยึดเงินประกันค่าเช่าได้ทั้งจำนวนในกรณีจำเลยมิได้บอกกล่าวเลิกสัญญาเช่าล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์อักษรเป็นระยะเวลา 3 เดือน ซึ่งแสดงว่าเงินประกันค่าเช่าเป็นเงินประกันความเสียหายเกี่ยวกับเรื่องหนี้ค่าเช่าค้างชำระ หนี้สินอื่นค้างชำระและเป็นเงินประกันความเสียหายการผิดสัญญาเช่าอีกด้วย เงินประกันการเช่าดังกล่าวจึงเป็นเบี้ยปรับเพราะจำเลยสัญญาแก่โจทก์ว่าจะใช้เงินจำนวนหนึ่งเมื่อตนไม่ชำระหนี้ให้ถูกต้องสมควร เมื่อจำเลยผิดนัดโดยจำเลยมิได้บอกเลิกสัญญาเช่าล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์อักษรเป็นระยะเวลา 3 เดือน เงินประกันการเช่านี้จึงตกอยู่ในบังคับของ ป.พ.พ.มาตรา 379, 381 โจทก์ย่อมมีสิทธิริบหรือเรียกเอาเงินประกันการเช่าได้

        สำหรับเงินค่าชดเชยการยกเลิกสัญญาเช่าก่อนครบกำหนดตามสัญญาเช่าได้ระบุไว้ว่าหากจำเลยเลิกสัญญาเช่าก่อนครบกำหนดอายุสัญญา จำเลยจะต้องชำระค่าชดเชยการยกเลิกสัญญาก่อนกำหนดมีมูลค่าเท่ากับค่าเช่า 4 เดือนเพิ่มขึ้นอีกต่างหากนั้น เป็นเรื่องจำเลยได้สัญญาจะใช้เงินจำนวนหนึ่ง เมื่อตนไม่ชำระหนี้ให้ถูกต้องสมควร เงินค่าชดเชยการยกเลิกสัญญาเช่าก่อนครบกำหนดจึงเป็นเบี้ยปรับตกอยู่ในบังคับมาตรา 379,381 โจทก์จึงมีสิทธิริบหรือเรียกเอาเงินค่าชดเชยการยกเลิกสัญญาเช่าก่อนครบกำหนดได้เช่นกัน

        เงินประกันการเช่าและเงินค่าชดเชยการยกเลิกสัญญาเช่าก่อนครบกำหนดดังกล่าวต่างก็เป็นเบี้ยปรับในกรณีที่จำเลยชำระหนี้ไม่ถูกต้องสมควรแม้ตามสัญญาเช่าจะระบุเรียกชื่อของเงินทั้งสองกรณีที่โจทก์มีสิทธิริบหรือเรียกเอาได้นั้นต่างกันโดยอาศัยเหตุการริบหรือเรียกเอาได้ต่างกัน แต่เหตุสำคัญที่เป็นเหตุเริ่มต้นให้โจทก์มีสิทธิริบหรือเรียกเอาได้นั้นจะต้องเกิดจากการที่จำเลยบอกเลิกสัญญาเช่าก่อนครบกำหนด ในกรณีที่จำเลยบอกเลิกการเช่าโดยมิได้บอกกล่าวล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์อักษรเป็นระยะเวลา 3 เดือน เป็นเหตุให้โจทก์มีสิทธิริบเงินประกันการเช่าได้ จึงเป็นเรื่องที่โจทก์มีสิทธิริบเบี้ยปรับเพิ่มขึ้นจากการที่โจทก์มีสิทธิริบหรือเรียกเอาเงินค่าชดเชยการยกเลิกสัญญาเช่าก่อนครบกำหนด มิใช่เป็นเรื่องที่โจทก์มีสิทธิริบหรือเรียกเอาเงินค่าชดเชยการยกเลิกสัญญาก่อนครบกำหนดตามที่ระบุไว้ในสัญญาเช่า ถือได้ว่าเงินประกันการเช่าเป็นเบี้ยปรับที่ซ้ำซ้อนกับเงินค่าชดเชยการยกเลิกสัญญาเช่าก่อนครบกำหนดเพราะเบี้ยปรับทั้งสองกรณีต่างก็เป็นเงินประกันค่าเสียหายล่วงหน้าเมื่อผิดสัญญาเช่าเนื่องจากจำเลยไม่ชำระหนี้ให้ถูกต้องสมควรทั้งสิ้น ดังนั้น เบี้ยปรับที่โจทก์มีสิทธิริบหรือเรียกเอาดังกล่าวนั้นเมื่อได้พิเคราะห์ถึงทางได้เสียของโจทก์ทุกอย่างอันชอบด้วยกฎหมายเกี่ยวกับความเสียหายที่จำเลยยกเลิกสัญญาเช่าก่อนครบกำหนดแล้ว ปรากฏว่าเป็นเบี้ยปรับที่สูงเกินส่วน มีเหตุลดเบี้ยปรับลงตามจำนวนพอสมควรได้ตาม ป.พ.พ.มาตรา 383 คงให้ปรับเฉพาะเงินค่าชดเชยการยกเลิกสัญญาเช่าก่อนครบกำหนดกรณีเดียว

        ค่าเสียหายในเชิงธุรกิจที่โจทก์เรียกร้องคือค่าเสียหายเกี่ยวกับค่าตกแต่งอาคารชั้นล่างเพื่อให้จำเลยทำสำนักงานชั่วคราว และค่าเสียหายในการบอกเลิกสัญญาที่โจทก์จะต้องชำระให้แก่บริษัท ป. อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากโจทก์ต้องให้จำเลยเช่าพื้นที่ชั้นที่ 7 นั้น ล้วนแต่เป็นค่าเสียหายที่โจทก์ได้ใช้จ่ายหรือจะต้องเสียไปก่อนที่โจทก์จะเข้าทำสัญญาเช่ากับจำเลย เมื่อโจทก์ทำสัญญาเช่ากับจำเลยโจทก์ย่อมมีสิทธิที่จะกำหนดค่าเสียหายเหล่านี้ไว้ในสัญญาเช่าในลักษณะเป็นมัดจำหรือเบี้ยปรับหรือกำหนดอัตราค่าเช่าให้สูงขึ้นได้ตามแต่โจทก์จะกำหนดให้จำเลยผู้เช่ารับผิดกรณีเช่นนี้จึงมิใช่ค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายเช่นที่ตามปกติย่อมเกิดขึ้นแก่การไม่ชำระหนี้ หรือเพื่อความเสียหายอันเกิดแต่พฤติการณ์พิเศษดังที่บัญญัติไว้ใน ป.พ.พ.มาตรา 222 เพราะค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายที่โจทก์จะมีสิทธิเรียกในกรณีจำเลยผิดสัญญาเช่าตามมาตรา 222 ดังกล่าวจะต้องเป็นค่าเสียหายที่เกิดขึ้นภายหลังจากจำเลยผิดสัญญาเช่าแล้ว และโจทก์ได้รับความเสียหายจากการที่จำเลยผิดสัญญาเช่านั้นด้วย ส่วนค่าเสียหายที่โจทก์ขาดรายได้จากดอกเบี้ยของเงินมัดจำที่จำเลยต้องวางไว้ต่อโจทก์จำนวนเงิน 8,500,000 บาท ตามสัญญาเช่านั้นมาตรา 378 ได้บัญญัติความรับผิดไว้โดยเฉพาะแล้ว ซึ่งบทบัญญัติมาตรานี้มิได้บัญญัติให้โจทก์มีสิทธิเรียกดอกเบี้ยในเงินมัดจำที่จำเลยจะต้องวางต่อโจทก์ด้วยจึงไม่อาจนำบทบัญญัติมาตรา 222 มาบังคับเพื่อให้จำเลยรับผิดต่อโจทก์อีก

        แม้เงินจำนวน 1,700,000 บาท จะเป็นเงินที่จำเลยจ่ายให้แก่โจทก์ตามสัญญาเช่าซึ่งเป็นข้อตกลงส่วนหนึ่งของการเช่าอาคาร และในสัญญาเช่าจะได้ระบุว่าเป็นมัดจำ แต่ก็ไม่ถือว่าเงินจำนวนนี้เป็นมัดจำตามความหมายที่บัญญัติไว้ใน ป.พ.พ.มาตรา 377 เพราะมิใช่เงินที่จำเลยจะต้องจ่ายให้โจทก์เพื่อเข้าทำสัญญาเช่าเป็นข้อตกลงส่วนหนึ่งในสัญญาเช่าเท่านั้น กรณีเช่นนี้จึงไม่อาจนำบทบัญญัติเกี่ยวกับมัดจำมาใช้บังคับได้ จะต้องถือปฏิบัติตามข้อกำหนดในสัญญาเช่าระบุไว้เมื่อตามสัญญาเช่าเอกสารหมาย จ.6 ไม่มีข้อใดระบุให้โจทก์ริบเงินส่วนนี้ของจำเลยไว้ แต่ได้ระบุไว้ว่า ผู้ให้เช่าจะคืนเงินมัดจำดังกล่าวให้แก่ผู้เช่าทันทีที่ได้มีการเรียกเก็บเงินค่าเช่าโทรศัพท์ครบถ้วนแล้ว หลังจากสัญญานี้สิ้นสุดลงด้วยเหตุใดก็ตาม อีกทั้งให้นำหลักการเรื่องเงินประกันค่าเช่ามาใช้โดยอนุโลมด้วย ดังนั้น แม้สัญญาเช่าสิ้นสุดลงเพราะจำเลยเป็นฝ่ายผิดสัญญา โจทก์ก็จะต้องคืนเงินจำนวนนี้ให้แก่จำเลย โจทก์คงมีสิทธินำเงินค่าบำรุงการใช้โทรศัพท์มาหักออกจากเงินมัดจำดังกล่าวได้ และจะต้องคืนเงินที่เหลือให้จำเลย


มีปัญหาปรึกษาทนายใกล้คุณ 099 464 4445  ปรึกษาหรือหาข้อมูลสู้คดีที่เวปไซต์นี้  www.ทนายภูวงษ์.com

******************************************

ลำดับที่ 5 

เรื่อง อายุความฟ้องคดีแชร์

ทนายเตือนภัย: การเล่นแชร์ถูกกฎหมายครับ จะผิดกฎหมายอาญา ฐานโฉ้โกงก็ต่อเมื่อหลอกว่ามีการเล่นแชร์ เก็บเงินไปแล้วหายดข้ากลีบเมฆไปเลย อันนี้เป็นความผิดทางอาญาแน่ แต่ถ้ามีคนเบี้ยว วงแชร์ล้ม ฟ้องได้ภายใน 10 ปีครับ

พ.ร.บ.การเล่นแชร์ พ.ศ.2534 เป็นบทบัญญัติที่มีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองประชาชนและเพื่อมิให้มีการประกอบธุรกิจการเล่นแชร์ที่กระทบต่อการระดมเงินออมของสถาบันการเงินที่ทางราชการสนับสนุนและรับผิดชอบซึ่งส่งผลกระทบไปถึงระบบเศรษฐกิจโดยส่วนรวม แต่การเล่นแชร์ของประชาชนโดยทั่วไปที่มิได้ดำเนินการเป็นธุรกิจยังให้กระทำต่อไปได้ ดังนั้น มาตรา 6 แห่ง พ.ร.บ. ดังกล่าว จึงบัญญัติห้ามมิให้บุคคลธรรมดาเป็นนายวงแชร์หรือจัดให้มีการเล่นแชร์ที่มีลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใดใน 4 ประการ เช่น ตามมาตรา 6 (3) อีกทั้งมาตรา 17 แห่ง พ.ร.บ. ดังกล่าวได้บัญญัติเอาความผิดแก่นายวงแชร์หรือผู้จัดให้มีการเล่นแชร์ที่ฝ่าฝืนมาตรา 6 แสดงให้เห็นถึงเจตนารมณ์ของกฎหมายว่าประสงค์จะเอาความผิดเฉพาะผู้เป็นนายวงแชร์หรือผู้จัดให้มีการเล่นแชร์เท่านั้น ดังนั้น นิติกรรมการเล่นแชร์ของนายวงแชร์หรือผู้จัดให้มีการเล่นแชร์เท่านั้นที่ตกเป็นโมฆะ แต่นิติกรรมการเล่นแชร์ของโจทก์และจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นสมาชิกวงแชร์ไม่ตกเป็นโมฆะไปด้วยตาม ป.พ.พ. มาตรา 173 สิทธิหรือหน้าที่ของสมาชิกวงแชร์มีความผูกพันตามกฎหมายอยู่อย่างไรความผูกพันย่อมมีอยู่เช่นนั้นเมื่อจำเลยที่ 1 ประมูลแชร์ได้และสั่งจ่ายเช็คเงินค่าแชร์มอบให้แก่จำเลยที่ 2 เพื่อนำไปมอบให้แก่โจทก์ซึ่งเป็นสมาชิกวงแชร์ที่ยังไม่ได้ประมูล เพื่อให้โจทก์นำไปเข้าบัญชีเรียกเก็บเงิน แต่ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงิน เนื่องจากจำเลยที่ 1 มีคำสั่งให้ระงับการจ่ายเงิน ถือว่าจำเลยที่ 1 เป็นฝ่ายผิดสัญญา จึงต้องรับผิดชำระเงินค่าแชร์แก่โจทก์ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง การเล่นแชร์เป็นสัญญาประเภทหนึ่งซึ่งเกิดจากการตกลงกันระหว่างผู้เล่น สามารถบังคับกันได้ตามกฎหมาย แต่อายุความเกี่ยวกับการฟ้องเรียกเงินค่าแชร์ไม่มีกฎหมายบัญญัติไว้โดยเฉพาะจึงมีกำหนด 10 ปี ตาม ป.พ.พ. มาตรา 193/30 เมื่อวงแชร์ล้มในวันที่ 20 กรกฎาคม 2540 จำเลยที่ 1 ตกลงให้โจทก์นำเช็คไปเรียกเก็บเงินในวันที่ 25 พฤษภาคม 2541 และเช็คดังกล่าวถูกธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินในวันเดียวกัน โจทก์อาจบังคับตามสิทธิเรียกร้องของโจทก์ได้นับแต่วันดังกล่าวเป็นต้นไป เมื่อนับถึงวันที่ 31 มีนาคม2546 ซึ่งเป็นวันฟ้องยังไม่พ้นกำหนด 10 ปี คดีของโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ


มีปัญหาปรึกษา ทนายใกล้คุณ 

คอลเซ็นเตอร์ (เวลาราชการ) 089-226-8899 

คอลเซ็นเตอร์ 24 ชั่วโมง 02-114-7521 

ไลน์กับทนาย 24 ชั่วโมง @lawyernearyou 

แชทกับทนาย 24 ชั่วโมง https://direct.lc.chat/8941034 

(กรอกข้อมูล มือถือ อีเมล เพื่อให้เราติดต่อกลับด้วย)

*****************************************

ลำดับที่ 16

วันอังคาร 22 กุมภาพันธ์ 2566

ทนายเตือนภัย เรื่อง คนชอบเล่นแชร์

www.สู้คดี.com 

คอลเซ็นเตอร์ทนายความ 099 464 4445  

แชทกับทนาย: https://bit.ly/lawyernearcourt


พ.ร.บ.การเล่นแชร์ พ.ศ.2534 เป็นบทบัญญัติที่มีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองประชาชนและเพื่อมิให้มีการประกอบธุรกิจการเล่นแชร์ที่กระทบต่อการระดมเงินออมของสถาบันการเงินที่ทางราชการสนับสนุนและรับผิดชอบซึ่งส่งผลกระทบไปถึงระบบเศรษฐกิจโดยส่วนรวม แต่การเล่นแชร์ของประชาชนโดยทั่วไปที่มิได้ดำเนินการเป็นธุรกิจยังให้กระทำต่อไปได้ ดังนั้น มาตรา 6 แห่ง พ.ร.บ. ดังกล่าว จึงบัญญัติห้ามมิให้บุคคลธรรมดาเป็นนายวงแชร์หรือจัดให้มีการเล่นแชร์ที่มีลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใดใน 4 ประการ เช่น ตามมาตรา 6 (3) อีกทั้งมาตรา 17 แห่ง พ.ร.บ. ดังกล่าวได้บัญญัติเอาความผิดแก่นายวงแชร์หรือผู้จัดให้มีการเล่นแชร์ที่ฝ่าฝืนมาตรา 6 แสดงให้เห็นถึงเจตนารมณ์ของกฎหมายว่าประสงค์จะเอาความผิดเฉพาะผู้เป็นนายวงแชร์หรือผู้จัดให้มีการเล่นแชร์เท่านั้น ดังนั้น นิติกรรมการเล่นแชร์ของนายวงแชร์หรือผู้จัดให้มีการเล่นแชร์เท่านั้นที่ตกเป็นโมฆะ แต่นิติกรรมการเล่นแชร์ของโจทก์และจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นสมาชิกวงแชร์ไม่ตกเป็นโมฆะไปด้วยตาม ป.พ.พ. มาตรา 173 สิทธิหรือหน้าที่ของสมาชิกวงแชร์มีความผูกพันตามกฎหมายอยู่อย่างไรความผูกพันย่อมมีอยู่เช่นนั้นเมื่อจำเลยที่ 1 ประมูลแชร์ได้และสั่งจ่ายเช็คเงินค่าแชร์มอบให้แก่จำเลยที่ 2 เพื่อนำไปมอบให้แก่โจทก์ซึ่งเป็นสมาชิกวงแชร์ที่ยังไม่ได้ประมูล เพื่อให้โจทก์นำไปเข้าบัญชีเรียกเก็บเงิน แต่ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงิน เนื่องจากจำเลยที่ 1 มีคำสั่งให้ระงับการจ่ายเงิน ถือว่าจำเลยที่ 1 เป็นฝ่ายผิดสัญญา จึงต้องรับผิดชำระเงินค่าแชร์แก่โจทก์ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง การเล่นแชร์เป็นสัญญาประเภทหนึ่งซึ่งเกิดจากการตกลงกันระหว่างผู้เล่น สามารถบังคับกันได้ตามกฎหมาย แต่อายุความเกี่ยวกับการฟ้องเรียกเงินค่าแชร์ไม่มีกฎหมายบัญญัติไว้โดยเฉพาะจึงมีกำหนด 10 ปี ตาม ป.พ.พ. มาตรา 193/30 เมื่อวงแชร์ล้มในวันที่ 20 กรกฎาคม 2540 จำเลยที่ 1 ตกลงให้โจทก์นำเช็คไปเรียกเก็บเงินในวันที่ 25 พฤษภาคม 2541 และเช็คดังกล่าวถูกธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินในวันเดียวกัน โจทก์อาจบังคับตามสิทธิเรียกร้องของโจทก์ได้นับแต่วันดังกล่าวเป็นต้นไป เมื่อนับถึงวันที่ 31 มีนาคม2546 ซึ่งเป็นวันฟ้องยังไม่พ้นกำหนด 10 ปี คดีของโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ


มีปัญหาปรึกษาทนายใกล้คุณ 099 464 4445 

ปรึกษาหรือหาข้อมูลสู้คดีที่เวปไซต์นี้ 

www.ทนายภูวงษ์.com

*******************************************


รู้กฎหมาย รู้จักทนาย ไม่เสียเปรียบ

ลำดับที่ 24

วันพฤหัสที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566

ทนายเตือนภัย เรื่อง เพิกถอนนิติกรรมการขายฝาก

www.สู้คดี.com https://www.สู้คดี.com

คอลเซ็นเตอร์ทนายความ 099 464 4445 แชทกับทนาย: https://bit.ly/helpmelawyer


โจทก์และจำเลยมีเจตนาจะผูกพันในเรื่องการกู้ยืมเงินระหว่าง อ. กับจำเลยโดยมีโจทก์เป็นผู้ค้ำประกัน และให้โฉนดที่ดินพิพาทเป็นประกันหนี้ หาได้มีเจตนาที่จะผูกพันกันตามสัญญาขายฝากไม่ แม้การแสดงเจตนาลวงโดยสมรู้กับคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งในการทำนิติกรรมอำพรางตามที่บัญญัติไว้ใน ป.พ.พ. มาตรา 155 วรรคสองนั้น คู่กรณีจะต้องแสดงเจตนาทำนิติกรรมขึ้นสองนิติกรรมคือ นิติกรรมหนึ่งแสดงให้ปรากฏออกมาโดยเปิดเผย คู่กรณีไม่ประสงค์จะให้มีผลบังคับอย่างใดตามกฎหมาย ส่วนอีกนิติกรรมหนึ่งเป็นนิติกรรมที่ไม่เปิดเผยเรียกว่านิติกรรมที่ถูกอำพรางปกปิดไว้โดยคู่กรณีประสงค์จะให้นิติกรรมที่ถูกอำพรางปกปิดไว้นั้นใช้บังคับระหว่างกันเองได้ แม้คู่กรณีในเรื่องนิติกรรมอำพรางจะต้องมีเพียงคู่เดียวก็ตาม แต่คดีนี้โจทก์เป็นสามีของ อ. ผู้กู้ ทั้งยังเป็นผู้ค้ำประกันในสัญญากู้เงิน โดยโจทก์มีความประสงค์ต้องการใช้เงิน แสดงว่าโจทก์มีส่วนได้เสียในเงินกู้ดังกล่าวด้วย การที่โจทก์และ อ. ทำนิติกรรมดังกล่าวจึงมีผลประโยชน์ร่วมกัน และถือได้ว่าเป็นฝ่ายเดียวกัน ดังนี้ แม้คู่กรณีในนิติกรรมขายฝากจะเป็นนิติกรรมระหว่างโจทก์กับจำเลย ส่วนนิติกรรมการกู้ยืมเป็นนิติกรรมระหว่าง อ. กับจำเลย ก็ถือได้ว่าคู่กรณีในนิติกรรมทั้งสองนิติกรรมนั้นเป็นคู่กรณีเดียวกัน ฟังได้ว่านิติกรรมขายฝากเป็นนิติกรรมอำพรางการกู้ยืม จึงตกเป็นโมฆะตาม ป.พ.พ. มาตรา 155 วรรคหนึ่ง ต้องบังคับตามสัญญากู้เงินตาม ป.พ.พ. มาตรา 155 วรรคสอง โดยจำเลยยังมีสิทธิยึดโฉนดที่ดินพิพาทเป็นประกันได้

เมื่อข้อเท็จจริงยังฟังไม่ได้แน่ชัดว่ามีการชำระหนี้ตามสัญญากู้ครบถ้วนแล้วหรือไม่ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องให้จำเลยจดทะเบียนไถ่ถอนการขายฝากกับขอให้จำเลยคืนโฉนดที่ดินพิพาทได้ และเมื่อการขายฝากที่ดินพิพาทพร้อมสิ่งปลูกสร้างตกเป็นโมฆะดังกล่าว ศาลฎีกาก็ชอบที่จะพิพากษาให้เพิกถอนเสีย


มีปัญหาปรึกษาทนายใกล้คุณ 099 464 4445 

ปรึกษาหรือหาข้อมูลสู้คดีที่เวปไซต์นี้  

www.ทนายภูวงษ์.com 

**************************************

ลำดับที่ 26

วันศุกร์ 24 กุมภาพันธ์ 2566

ทนายเตือนภัย เรื่อง ตรวจค้นต้องมีเหตุ

www.ทนายภูวงษ์.com 

คอลเซ็นเตอร์ทนายความ 099 464 4445 

แชทกับทนายภูวงษ์: https://bit.ly/lawyerpoovong


เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าบริเวณที่เกิดเหตุอยู่บนถนนสุทธาวาสไม่ใช่หลังซอยโรงถ่านตามที่สิบตำรวจโท ก. และสิบตำรวจตรี พ. อ้างว่ามีอาชญากรรมเกิดขึ้นประจำแต่อย่างใด และจำเลยไม่มีท่าทางเป็นพิรุธคงเพียงแต่นั่งโทรศัพท์อยู่เท่านั้น การที่สิบตำรวจโท ก. และสิบตำรวจตรี พ. อ้างว่าเกิดความสงสัยในตัวจำเลยจึงขอตรวจค้น โดยไม่มีเหตุผลสนับสนุนว่าเพราะเหตุใดจึงเกิดความสงสัยในตัวจำเลย จึงเป็นข้อสงสัยที่อยู่บนพื้นฐานของความรู้สึกเพียงอย่างเดียวถือไม่ได้ว่ามีเหตุอันควรสงสัยตาม ป.วิ.อ. มาตรา 93 ที่จะทำการตรวจค้นได้ การตรวจค้นตัวจำเลยจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย จำเลยซึ่งถูกกระทำโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายจึงมีสิทธิโต้แย้งและตอบโต้เพื่อป้องกันสิทธิของตน ตลอดจนเพิกเฉยไม่ปฏิบัติตามคำสั่งใด ๆ อันสืบเนื่องจากการปฏิบัติที่ไม่ชอบดังกล่าวได้ การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตามที่โจทก์ฟ้อง


มีปัญหาปรึกษาทนายใกล้คุณ 099 464 4445  ปรึกษาหรือหาข้อมูลสู้คดีที่เวปไซต์นี้: www.ทนายภูวงษ์.com

****************************************

ลำดับที่ 62

เรื่อง เล่าสู่กันฟัง ลิขสิทธิ์ โดราเอม่อน

ทนายเตือนภัย: ทรัพย์สินทางปัญญา สร้างปัญหาทั้งคนจนและคนรวยครับ แต่ถึงอย่างไรก็ต้องให้ประโยชน์กับผู้สร้างสรรค์ผลงาน มาให้ประชาชนได้ประโยชน์จากความคิดสร้างสรรค์นั้น แต่ก็ต้องมีอายุความในการให้ประโยชน์กับผู้สร้างสรรค์ผลงาน ตามฎีกานี้ครับ


โจทก์บรรยายฟ้องอ้างว่าผู้เสียหายเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์งานที่นำภาพการ์ตูนโดราเอมอนมาดัดแปลงเป็นงานศิลปะ ใช้ประยุกต์กับวัสดุสิ่งของ เครื่องใช้ เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่มและนำมาใช้ในทางการค้าลักษณะงานตามฟ้องจึงเข้าลักษณะเป็นงานศิลปประยุกต์ กล่าวคือ เป็นงานที่นำเอางานภาพการ์ตูนไปใช้เพื่อประโยชน์อย่างอื่นนอกเหนือจากการชื่นชมในคุณค่าของตัวงานดังกล่าว โดยนำไปใช้เพื่อประโยชน์ทางการค้าตามนิยามคำว่า "งานศิลปประยุกต์" ในมาตรา 4 แห่งพ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 ซึ่งมาตรา 22 บัญญัติไว้ว่าลิขสิทธิ์ในงานศิลปประยุกต์ให้มีอายุยี่สิบห้าปีนับแต่ได้มีการโฆษณาเป็นครั้งแรก งานของผู้เสียหายมีการโฆษณางานเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2512 งานดังกล่าวจึงมีอายุการคุ้มครองอยู่ถึงเพียงวันที่ 1 ธันวาคม 2537 ขณะเกิดเหตุในคดีนี้ งานที่นำภาพตัวการ์ตูนโดราเอมอนมาดัดแปลงเป็นงานศิลปะ ใช้ประยุกต์กับวัสดุสิ่งของ เครื่องใช้ เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่มและนำมาใช้ประโยชน์ทางการค้าตามฟ้องจึงไม่มีลิขสิทธิ์อีกต่อไป


มีปัญหาปรึกษา ทนายใกล้คุณ 

คอลเซ็นเตอร์ (เวลาราชการ) 089-226-8899 คอลเซ็นเตอร์ 24 ชั่วโมง 02-114-7521 

ไลน์กับทนาย 24 ชั่วโมง @lawyernearyou 

แชทกับทนาย 24 ชั่วโมง https://direct.lc.chat/8941034 

(กรอกข้อมูล มือถือ อีเมล เพื่อให้เราติดต่อกลับด้วย)

***********************************



การตั้งค่าคุกกี้
X
ไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์ในการท่องเว็บที่ดียิ่งขึ้น
คุณสามารถยอมรับคุกกี้ทั้งหมดหรือเลือกประเภทของคุกกี้ที่คุณยินดีอนุญาต
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
เลือกคุกกี้ที่คุณต้องการอนุญาตในขณะที่คุณเรียกดูเว็บไซต์นี้ โปรดทราบว่าคุกกี้บางตัวไม่สามารถปิดได้ เนื่องจากหากไม่มีคุกกี้ เว็บไซต์จะไม่ทำงาน
ความสำคัญ
เพื่อป้องกันสแปม ไซต์นี้ใช้ Google Recaptcha ในแบบฟอร์มการติดต่อ

ไซต์นี้อาจใช้คุกกี้สำหรับอีคอมเมิร์ซและระบบการชำระเงินซึ่งจำเป็นสำหรับเว็บไซต์เพื่อให้ทำงานได้อย่างถูกต้อง
บริการของ Google
ไซต์นี้ใช้คุกกี้จาก Google เพื่อเข้าถึงข้อมูล เช่น หน้าที่คุณเยี่ยมชมและที่อยู่ IP ของคุณ บริการของ Google บนเว็บไซต์นี้อาจรวมถึง:

- Google Maps
- Google Font
ข้อมูล
ไซต์นี้อาจใช้คุกกี้เพื่อบันทึกพฤติกรรมของผู้เข้าชม ติดตามการแปลงโฆษณา และสร้างผู้ชม รวมถึงจาก:

- Google Analytics
- เครื่องมือวัด Conversion ของ Google Ads
- Facebook (Meta Pixel)